ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง

image_slide: 
Undefined
sub title: 
กองดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์
เนื้อหา: 

รายงานดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนตุลาคม 2566

               

         ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนตุลาคม 2566 เท่ากับ 112.7 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2565 (YoY) ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง หากพิจารณาเป็นรายหมวดดัชนีราคามีทั้งสูงขึ้นและลดลง โดยส่วนใหญ่มีทิศทางสูงขึ้นเกือบทุกหมวด เนื่องจากมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของภาครัฐ ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการปรับปรุงงานระบบและการคมนาคม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความต้องการใช้ในธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ขณะที่หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็กดัชนีราคาลดลงตามราคาตลาดโลก (จีนและเอเชีย) จากปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว กดดันความต้องการใช้เหล็ก ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินสูง หมวดสุขภัณฑ์ราคาลดลงเนื่องจากผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ดัชนีราคาลดลง เป็นผลจากอลูมิเนียมแผ่นเรียบและยางมะตอยราคาปรับลดลง 

         เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้นร้อยละ 0.1 โดยสูงขึ้นจากหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ตามต้นทุนค่าดำเนินงานที่สูงขึ้น  หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นจากสินค้าประเภทท่อ PVC ตามความต้องการใช้ในการก่อสร้างเกี่ยวกับระบบประปาในช่วงฤดูฝน และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นจากราคาทราย และยางมะตอย 

 

 

รายละเอียด.......

คำชี้แจงการปรับปรุงดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ปีฐาน 2553

              กระทรวงพาณิชย์ โดยกองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ การค้า เป็นหน่วยงานที่จัดทำดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเผยแพร่เป็นประจำทุกเดือน ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เป็นดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างโดยเฉลี่ย  ซึ่งเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งของการก่อสร้างต่าง ๆ การจัดทำดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง จำเป็นต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยจะมีการสำรวจปรับปรุงลักษณะจำเพาะสินค้า (Specifications) และแหล่งจัดเก็บข้อมูลราคาเป็นประจำทุกปี ในส่วนของการปรับปรุงโครงสร้างรายการ (Items) น้ำหนักรายการสินค้า (Weights) และปีฐาน (Base year) จะดำเนินการปรับทุกๆ 5 ปี ตามการจัดทำตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิตของประเทศไทย (Input – Output Table of Thailand) ที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)  เนื่องจากต้องใช้ข้อมูลจากตารางดังกล่าวในการจัดทำซึ่งตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิตที่ (สศช.) จัดทำและเผยแพร่ล่าสุด คือ ปี2553 นอกจากนี้ยังใช้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนประกอบการพิจารณา เช่น สำนักงบประมาณกระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทผู้แทนจำหน่าย เป็นต้น

รายละเอียด.......